Duran’s Tent of Golden Sky

Duran's Tent of Golden Sky
Duran's Tent of Golden SkyคำนามเฉพาะDuran's Tent of Golden Sky
ระดับความหายากRaritystrRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
ประเภทรีลิกส์,
วิธีการได้รับสกัดจักรวาลประดับใน "จักรวาลต่างมิติ"
「万能合成机」- 遗器合成
เซ็ตรีลิกส์
Duran, Dynasty of Running Wolves
Duran, Dynasty of Running Wolves
เซ็ตเอฟเฟกต์2 ชิ้น: เมื่อตัวละครฝ่ายเรา ปล่อยการโจมตีต่อเนื่อง ผู้สวมใส่จะได้รับ "คุณความดี" หนึ่งชั้น และจะซ้อนทับได้มากสุด 5 ชั้น โดย "คุณความดี" แต่ละชั้น จะทำให้การโจมตีต่อเนื่องของผู้สวมใส่ สร้าง DMG เพิ่มขึ้น 5% เมื่อซ้อนทับถึง 5 ชั้นแล้ว จะทำให้ DMG คริติคอล ของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้นอีก 25%
เลเวลสูงสุด15
เนื้อเรื่องสิ่งที่อยู่ในมิติระนาบก็คือ เต็นท์ท้องฟ้าประกายทองของ Borisin แห่งแดนเขียวขจี ซึ่งตรงกันข้ามกับชื่อเสียงอันแสนป่าเถื่อนที่ Borisin ทิ้งไว้ในกาแล็กซี พวกเขามีเทคโนโลยีชีวภาพที่น่าทึ่ง เหล่าลูกหลานหมาป่าได้รวมตัวกันที่ข้างๆ Duran เจ้าแห่งรังผู้ยิ่งใหญ่ และมองว่าดวงดาวบนท้องฟ้า เป็นเหมือนทุ่งเลี้ยงสัตว์ ที่พวกเขาควบม้าวิ่งอยู่ท่ามกลางพวกมัน

สารบัญ
ค่าสถานะ
Gallery
เนื้อเรื่อง

ค่าสถานะ

+15
ค่าสถานะพื้นฐาน
Class HP
43.2%
Class ATK
43.2%
Class DEF
54%
Class เพิ่ม DMG กายภาพ
38.88%
Class เพิ่ม DMG ไฟ
38.88%
Class เพิ่ม DMG น้ำแข็ง
38.88%
Class เพิ่ม DMG สายฟ้า
38.88%
Class เพิ่ม DMG ลม
38.88%
Class เพิ่ม DMG ควอนตัม
38.88%
Class เพิ่ม DMG จินตภาพ
38.88%
ค่าสถานะรอง
Class HP
203.22 ~ 228.62 ~ 254.03
Class ATK
101.61 ~ 114.31 ~ 127.01
Class DEF
101.61 ~ 114.31 ~ 127.01
Class HP
20.74% ~ 23.33% ~ 25.92%
Class ATK
20.74% ~ 23.33% ~ 25.92%
Class DEF
25.92% ~ 29.16% ~ 32.4%
Class ความเร็ว
12 ~ 13.8 ~ 15.6
Class อัตราคริติคอล
15.55% ~ 17.5% ~ 19.44%
Class DMG คริติคอล
31.1% ~ 34.99% ~ 38.88%
Class อัตราสร้างสถานะ
20.74% ~ 23.33% ~ 25.92%
Class ต้านทานสถานะ
20.74% ~ 23.33% ~ 25.92%
Class เอฟเฟกต์ทำลายล้าง
31.1% ~ 34.99% ~ 38.88%

เนื้อเรื่อง

เพลงร้องนำโบราณของมนุษย์จิ้งจอกและ Borisin ทุกสิ่งล้วนชวนให้นึกถึงดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ และสภาพอากาศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของ "ดาวแห่งแดนเขียวขจี" แต่หากสังเกตดูอย่างละเอียดแล้ว คนที่ให้ความสนใจก็จะพบว่า นี่เป็นเพียงบทเกริ่นนำของหัวข้อตลอดกาลอย่าง "สงคราม" ก็เท่านั้น

ด้วยพรสวรรค์ในด้านการเกษตรและการค้า จึงทำให้เผ่าพันธุ์จิ้งจอก ได้สร้างเมืองที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาที่ริมฝั่งแม่น้ำ ขณะเดียวกัน ลูกหลานก็เดินทางไปพร้อมกับฝูงของมัน ภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงขั้วโลกอันยิ่งใหญ่ และทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม จนได้รวมตัวกันเป็นเผ่าพันธุ์ที่กระจัดกระจายไปทั่วทุกที่ พ่อค้าเยาะเย้ยคนเลี้ยงสัตว์ว่าเป็นพวกป่าเถื่อน ส่วนคนเลี้ยงสัตว์ก็ดูแคลนพ่อค้าว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์ แต่พวกเขาต่างต้องเผชิญกับ การทรมานอันแสนโหดร้ายของธรรมชาติอย่าง... "จิ้งจอกคิมหันต์" และ "หมาป่าเหมันต์"

ในช่วงฤดูร้อน เมื่อเทพจิ้งจอกประทานพรให้เก็บเกี่ยวพืชผลได้อุดมสมบูรณ์ ทั้งสองฝ่ายก็จะพักผ่อนและพักรบ ต่างฝ่ายต่างพึงพอใจกันทั้งคู่ แต่เมื่อเทพหมาป่าปล่อยน้ำค้างแข็งสีขาวลงมา หิมะก็จะแผ่กระจายออกมาจากขั้วโลก และความหิวโหยก็ได้ผลักดันทั้งสองฝ่าย ไปสู่ความขัดแย้งที่ไม่สิ้นสุด

บทเพลงได้กล่าวว่า หมาป่าเหมันต์อันไร้ที่สิ้นสุดจะไม่หายไป แม้ว่าดวงอาทิตย์แห่งแดนเขียวขจีจะโคจรไปแล้ว 33 ครั้งก็ตาม ความยากจนและความหิวโหยทำให้ผู้คนเดือดร้อน จนจำเป็นต้องกินแม้กระทั่งสัตว์ที่บูชาบนเสาโทเทมเพื่อความอยู่รอด หลังจากมองเห็นจุดจบที่มีกระดูกสีขาวโพลนอยู่ทั่วทุกที่ เป็นการล่วงหน้าแล้ว ผู้ช่วยให้รอดก็ปีนขึ้นไปบนภูเขาที่สูงที่สุดในโลกมนุษย์ ในเทพนิยายของมนุษย์จิ้งจอก ผู้คนเรียกเขาว่า "Tushan" แต่ในบทเพลงของ Borisin ผู้คนเรียกเขาว่า "Duran" แต่ไม่ว่าผู้ช่วยให้รอดคนนี้จะชื่ออะไร เขาก็อธิษฐานต่อเจ้าแห่งอายุวัฒนะ ให้ช่วยมอบเสบียงเพื่อที่ทุกคนจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป จากนั้นยอดเขาก็แตกออก และน้ำพุจาก "วารีสีชาด" ที่หอมหวานราวกับการตื่นรู้ก็ได้พวยพุ่งออกมา

บรรดาผู้ที่ดื่มวารีสีชาดเข้าไป ล้วนได้รับพลัง ความคล่องแคล่ว และความแข็งแกร่ง เลือดของพวกเขาปั่นป่วนไปด้วยความดุร้ายของสัตว์ป่า และรูปลักษณ์ก็กลายเป็นสัตว์ป่ามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด... โลกนี้จึงเปลี่ยนไป และไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก

วารีสีชาดถูกใช้เป็นสื่อกลาง เพื่อสร้างของใช้ทุกสิ่งที่เหล่ามนุษย์หมาป่าเกิดใหม่ต้องการ พืชที่ปลูกในท้องทุ่งไม่ใช่ข้าวสาลีอีกต่อไป แต่เป็น Viscorpus สิ่งที่ปกคลุมร่างกายก็ไม่ใช่ผ้ากระสอบอีกต่อไป แต่เป็นรกแทน แม้แต่ดินแดนหิมะที่หนาวเย็น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสร้างความหวาดกลัวให้กับอารยธรรมแห่งแดนเขียวขจี ก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป เหล่ามนุษย์หมาป่าได้ปลูกเยื่อหุ้มชีวภาพบริเวณขั้วโลก เพื่อประดิษฐ์เป็นเต็นท์ทรงโดมอันอบอุ่น และขจัดความยากลำบากในช่วงหมาป่าเหมันต์

จากนั้นสิ่งต่างๆ ในแดนเขียวขจีก็ได้เปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกับที่เผ่าพันธุ์อายุสั้นที่ได้เปลี่ยนเป็นเผ่าพันธุ์อายุยืนยาว... จำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ระบบนิเวศล่มสลาย และสงครามภายใน... ไม่ว่าเหล่ามนุษย์หมาป่าจะอธิษฐานต่อเจ้าแห่งอายุวัฒนะอย่างไร ก็ไม่ได้การตอบรับอีก จากนั้นพวกเขาก็เข้าใจว่า ทุกสิ่งที่เจ้าแห่งอายุวัฒนะสามารถให้ได้ ก็ได้มอบให้ไปหมดแล้ว และหากผู้คนปรารถนาจะมีชีวิตที่ดีขึ้น พวกเขาจะต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง

เมื่อรวมตัวกันรอบด้านเจ้าแห่งรังผู้ยิ่งใหญ่ เหล่ามนุษย์หมาป่าก็มองขึ้นไปบนฟ้า ที่ซึ่งเจ้าแห่งอายุวัฒนะอยู่ ดวงดาวส่องสว่างราวกับทุ่งหญ้าที่รอการสำรวจ พวกเขาจะนำอารยธรรมของดวงดาวเหล่านี้มาสู่ "หมาป่าเหมันต์"

กาลเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ต่อมาชาว Xianzhou ได้เรียกพวกเขาว่า "Borisin" ซึ่งในภาษาของแดนเขียวขจีนั้นแปลว่า "หมาป่า"

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton